สถานที่ท่องเที่ยว

สวนไรซาล
   สวนไรซาล (Rizal Park) หรือมีอีกชื่อว่า ลูเนตา (Luneta) เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ของเมือง และเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ โฮเซ่ ไรซาล (Jose Rizal) ซึ่งเป็นผู้นำในการปลดแอกฟิลิปปินส์จากสเปนในช่วง ค.ศ.1896-1898 และในบริเวณเดียวกันก็เป็นจุดที่ฟิลิปปินส์ประกาศอิสรภาพเหนือสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1941 ด้วย



ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago)
     ซึ่งเป็นด่านแรกที่ป้องกันการโจมตีจากข้าศึก ที่เข้ามาทางปากแม่น้ำปาซิก จากอ่าวมะนิลา ป้อมแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ต่อมาได้บูรณะซ่อมแซมเพื่อให้เป็น ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ ” (Shrine of Freedom) บริเวณรอบป้อมมีสวนหย่อม รายล้อมโดยมีรถม้าให้บริการ พาชมรอบบริเวณ บริเวณดังกล่าว ยังมีสถานที่คุมขังนักโทษ ที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำปากแม่น้ำปาซิก และส่วนหนึ่ง
ของป้อมนี้ ถูกทำเป็นสนามกอล์ฟอย่างสวยงาม



ทะเลสาบตาอัล
     ซึ่งมีภูเขาไฟอยู่กลางทะเลสาปด้วย บนภูเขานี้ มีชุมนุมที่อยู่อาศัย บ้านพักตากอากาศ และร้านอาหารหลายร้าน อากาศเย็นสบาย วิวสวย ทางตอนบนของมะนิลา มีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมมากอยู่แห่งหนึ่งเรีบกว่า ทะไกไต ที่นั่นมีทะเลสาบขนาดใหญ่ มีเทือกเขาล้อมรอบ ในทะสาบก็มีเกาะเล็กๆ สองสามเกาะ และที่สำคัญที่สุดคือมี ภูเขาไฟที่เล็กที่สุดและอันตรายที่สุดชื่อว่า TAAL VOLCANO ภูเขาไฟนี้ยังไม่ดับสนิทเพราะฉะนั้นจึงมีโอกาสระเบิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ นี่แหละอาจเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์แบบสวยประหารของภูเขาไฟลูกนี้



โอเชี่ยนปาร์ค
   โอเชี่ยนปาร์ค เป็นโอเชี่ยนปาร์คขนาดใหญ่ที่ด้านในจะได้สัมผัสถึงความเป็นอยู่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิดหลากหลายสายพันธุ์ มีปลามากมายให้ได้ชมอย่างตื่นตา ตื่นใจ มีสัตว์น้ำแปลกๆ ที่หาชมได้ยาก รวมถึงมีแนวปะการังเทียมที่จัดแสดงไว้ได้อย่างเหมือนจริง และภายในโอเชี่ยนแปลกๆ ที่หาชมได้ยาก รวมถึงมีแนวปะการังเทียมที่จัดแสดงไว้ได้อย่างเหมือนจริง และภายในโอเชี่ยนปาร์คมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่มีทางเดินยาวกว่า 25 ม. คล้ายกับที่สยามโอเชี่ยนเวิร์ด ห้างสยามพารากอนของไทยเรา ซึ่งภายในอุโมงค์นี้มีปลาจำนวนมากมายแหวกว่ายไปมาให้ได้ชมกันแบบใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาฉลาม ปลากระเบน



Boracay Island
   เป็นหนึ่งในเกาะในหมู่เกาะที่ดีที่สุดทั่วฟิลิปปินส์ และได้ประกาศเกาะที่สวยที่สุดทั่วโลก Boracay Island เป็นเกาะเขตร้อนตั้งอยู่ประมาณ 315 กิโลเมตร ทางใต้ของมะนิลาและสองกิโลเมตรปิดปลายตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Panay ใน Visayas ภาคตะวันตกของฟิลิปปินส์ Boracay เป็นส่วนหนึ่งของเทศบาลเมืองของมาเลย์ในจังหวัด Aklan ซึ่งตั้งอยู่ใน Panay หนึ่งในกลุ่มของหมู่เกาะที่แสดงในส่วนกลางของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ Boracay มีสองหาดท่องเที่ยวหลัก White Beach และ Bulabog Beach ซึ่งตั้งอยู่ด้านตรงข้ามของสัญญาของเกาะกลางทะเล White Beach ใบหน้าไปทางตะวันตกเป็นหากท่องเที่ยวหลักจะเกี่ยวกับสำหรับระยะยาวเรียงรายไปด้วยรีสอร์ทโรงแรมบ้านที่พักร้านอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง



กรุงมะนิลา
   กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการร้องรำทำเพลง ประชาชนรักเสียงเพลงและความสนุกสนาน มะนิลาคือศูนย์กลางของเขตมหานครที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของอ่าวมะนิลา (Manila Bay) บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และอุตสาหกรรมรมของประเทศหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BAYVIEW PARK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า



อินทรามูรอส
   อินทรามูรอส (Intramuros) มีลักษณะเป็นป้อมปราการและกำแพงคูเมือง เป็นศูนย์กลางในการปกครอง การศึกษา วัฒนธรรม ศาสนา และการค้าในช่วงศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 19 ภายในพื้นที่ ประมาณ 395 ไร่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงหินสูง ประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัย โบสถ์ โรงเรียน และสถานที่ราชการ รวมทั้งสถานที่น่าชม



โบสถ์ซาน อากุสติน
   โบสถ์ซาน อากุสติน (San Agustin) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมทรงสเปน ที่สง่างาม สร้างขึ้นในปี 1599 โบสถ์แห่งนี้ สร้างขึ้นเป็นครั้งที่สาม โดยสองครั้งแรกถูกไฟไหม้ไป



มาคาติ
   มาคาติ (Makati) แหล่งช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและเป็นย่านธุรกิจชั้นนำของกรุงมะนิลา ที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาวมากมาย รวมไปถึง ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ถึง 4 แห่ง โดยปกติร้านค้าจะเปิดเวลา 10.00-20.00 น.
แถมท้ายอีกนิด ขอแนะนำร้านค้าที่เหมือนกับร้านโชว์ห่วยบ้านเรา ซึ่งเป็นกิจการภายในครอบครัว เรียกว่า Sari Sari Store ซึ่งจะอยู่ตามหัวมุมถนนต่างๆ



ปักซังฮัน (Pagsanjan)
ซึ่งเป็นแหล่งล่องแก่งชั้นยอด นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาเปลี่ยนชุดเพื่อว่ายน้ำ หรือกางเกงขาสั้น เล่นน้ำตกปักซังฮัน แล้วทวนน้ำขึ้นไปกับเรือ ซึ่งท่านจะเพลิดเพลินกับการผจญภัยกับการนั่งเรือทวนน้ำ เรือบันกา ซึ่งบ่อยครั้ง อาจจะเกยตื้น หรือติดแก่งจนทำให้คนเรือต้องลงมาผลักหรือยกเรือเพื่อไปชมน้ำตก พร้อมทั้งได้ชื่นชมความสดชื่นของน้ำที่ไหลผ่าน ชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่สรรค์สร้างได้อย่างลงตัว ในตอนล่องเรือผ่าน้ำเชียวขากลับนั้น คุณจะรู้สึกสนุกตื่นเต้นอย่าบอกใครเลยทีเดียว พร้อมทั้งเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ท่านไม่เคยลืม เรือจะไหลล่องเข้าสู่โตรกธาร ผ่านน้ำตกเล็ก๐ ที่ล้อแดดระยิบระยับและตะไคร้น้ำสีเขียวสด ผาสองข้างทางสูงเกือบ 100 เมตร ลมสงบนิ่ง ขณะที่ป่าส่งเสียงครางมาแผ่วๆ แวะซื้อขนมขึ้นชื่อ พายมะพร้าวอ่อนแสนอร่อย ที่เต็มไปด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนหนานุ่ม



ขอขอบคุณ  http://surassawadeeyoktree.blogspot.com/


ภูมิอากาศ


ลักษณะภูมิอากาศประเทศฟิลิปปินส์


       ฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในพื้นที่มรสุมเขตร้อน มี 3 ฤดูกาลคือ
  •       ฤดูร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม)




  • ฤดูฝน (ช่วงเดือนมิถุนายน - ตุลาคม)



  • ฤดูหนาว (ช่วงเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์)






ขอขอบคุณ  http://www.asean-info.com/asean_members/philippines_location_climate.html


สกุลเงิน

Philippine Peso

        เปโซ (Peso) เป็นสกุลเงินของประเทศฟิลิปปินส์
*1.40 เปโซ เท่ากับประมาณ 1 บาท 
The Philippine Peso (PHP) is the official currency of the Philippines.
1.40 Philippine Peso = 1 Thai Baht


ธนบัตรที่พิมพ์ออกใช้ในปัจจุบันนี้มีฉบับละ 20 เปโซ, 50  เปโซ, 100  เปโซ , 200  เปโซ, 500  เปโซ และ 1,000  เปโซสกุลเงินประเทศฟิลิปปินส์










ขอขอบคุณ  http://www.uasean.com/dogtech/315


การเมืองการปกครอง



การเมืองและการปกครองประเทศฟิลิปปินส์
        แต่เดิมฟิลิปปินส์มีการปกครองระบอบประธานาธิบดี ต่อมาได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยกำหนดให้ฟิลิปปินส์เป็นสาธารณรัฐ มีระบบการปกครองแบบรัฐสภาประธานาธิบดีซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประมุขของประเทศและต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ๆ ในขณะดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของฟิลิปปินส์ที่ร่างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ และประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘

ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ประธานาธิบดีเฟอร์ดินาล มาร์กอส ได้ประกาศกฎอัยการศึกตามอำนาจในรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ.๒๔๗๘ แล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาแทนฉบับเดิม รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีเพียง ๑๗ มาตรา ประกาศใช้ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๖  กำหนดให้ฟิลิปปินส์ มีการปกครองแบบรัฐสภา โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล

รัฐธรรมนูญฉบับเดิม และโครงสร้างของการปกครองฟิลิปปินส์มีอุปสรรคขัดขวางความเจริญอย่างหนึ่งคือบรรดาเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวย เข้ามามีอิทธิพลในสภาของฟิลิปปินส์ คนกลุ่มนี้จะสนใจเฉพาะผลประโยชน์ และความมีอภิสิทธิ์ของพวกตนเท่านั้น

เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ ที่ประกอบด้วยเกาะเป็นจำนวนมากและอยู่อย่างกระจัดกระจาย การปกครองจึงจำเป็นต้องมาจากส่วนกลางมากกว่าจะเป็นการปกครองแบบสหพันธ์ เช่น สหรัฐอเมริกา 





การแบ่งเขตการปกครอง


        ฟิลิปปินส์แบ่งเป็นหน่วยรัฐบาลท้องถิ่น (local government units, LGUs) โดยที่มีจังหวัดเป็นหน่วยหลัก ในปี พ.ศ. 2545 มี 79 จังหวัด (provinces) แบ่งออกเป็น นคร (cities) และ เทศบาล (municipalities) ซึ่งหน่วยการปกครองทั้งสองยังประกอบไปด้วย บารังไกย์ (barangay) อีกทอดหนึ่ง ถือเป็นหน่วยรัฐบาลท้องถิ่นที่เล็กที่สุด
ฟิลิปปินส์แบ่งออกเป็น 17 เขต (regions) ซึ่งทุกจังหวัดได้ถูกจัดอยู่ใน 16 เขตเพื่อความสะดวกในการปกครอง ยกเว้นเขตนครหลวง (National Capital Region) ที่แบ่งออกเป็นเขตพิเศษ 4 แห่ง
หน่วยงานของรัฐบาลส่วนใหญ่จะตั้งสำนักงานในแต่ละภูมิภาค เพื่อรับใช้ประชาชนในจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคนั้น ๆ ภูมิภาคไม่มีรัฐบาลท้องถิ่นแยกต่างหาก ยกเว้นเขตปกครองตนเองในมินดาเนามุสลิมและเขตบริหารคอร์ดิลเลราซึ่งปกครองตนเองไม่ได้ให้ผู้อื่นปกครอง



เขต (regions)

  • เขตอีโลกอส (Ilocos Region, Region I)
  • คากายันแวลลีย์ (Cagayan Valley, Region II)
  • เซนทรัลลูซอน (Central Luzon, Region III)
  • คาลาบาร์ซอน (CALABARZON, Region IV-A)
  • มิมาโรปา (MIMAROPA, Region IV-B)
  • เขตบีโกล (Bicol Region, Region V)
  • เวสเทิร์นวิซายา (Western Visayas, Region VI)
  • เซนทรัลวิซายา (Central Visayas, Region VII)
  • อีสเทิร์นวิซายา (Eastern Visayas, Region VIII)
  • คาบสมุทรซัมโบอังกา (Zamboanga Peninsula, Region IX)
  • นอร์เทิร์นมินดาเนา (Northern Mindanao, Region X)
  • เขตดาเวา (Davao Region, Region XI)
  • ซอกสก์ซาร์เกน (SOCCSKSARGEN, Region XII)
  • คารากา (Caraga, Region XIII)
  • เขตปกครองตนเองในมินดาเนามุสลิม (Autonomous Region in Muslim Mindanao, ARMM)
  • เขตบริหารกอร์ดีเยรา (Cordillera Administrative Region, CAR)
  • เขตนครหลวง (National Capital Region, NCR) (หรือ Metro Manila: เมโทรมะนิลา)



โครงสร้างของรัฐบาล


        ฟิลิปปินส์เป็นดินแดนที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย และจีนน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเซียอาคเนย์  ฟิลิปปินส์ไม่มีสิ่งก่อสร้างเก่า ๆ ในยุคเดิม ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ที่แพร่เข้ามาในเอเซียอาคเนย์ในครั้งแรก ไม่ได้ฝังรากมั่นคงในดินแดนแห่งนี้ จะมีมากก็เฉพาะศาสนาอิสลาม ที่แพร่เข้าไปบริเวณเกาะซูลู และเกาะมินดาเนา พอดีสเปนได้เข้ามาถึงดินแดนนี้ เมื่อปี พ.ศ.๒๐๖๔ 
    
     สเปนได้สร้างกรุงมะนิลาขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเมืองแบบสเปน มะนิลาได้ชื่อว่า เป็นเมืองเก่าของพวกยุโรปในบริเวณะวันออกไกล 
    
    สเปนมีอำนาจบังคับบัญชาดินแดนที่มีประชากรอยู่เป็นจำนวนมากในฟิลิปปินส์ได้ จะเว้นก็แต่พวกมุสลิมที่อยู่ทางใต้แถบเกาะมินดาเนา และเกาะซูลู   อำนาจการบังคับบัญชาขึ้นอยู่กับอุปราชของสเปนที่เม็กซิโก ในช่วงระยะเวลาที่สเปนเข้ามาเป็นผู้ปกครองศาสนาคริสต์ได้กลายเป็นศาสนาที่มีอิทธิพลเหนือคนพื้นเมือง 

    ขณะที่อยู่ภายใต้การปกครองของสเปนในระยะแรกชาวฟิลิปปินส์ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านอำนาจสเปนมากนักต่อมาเมื่อสเปนมีข้อพิพาทกับสหรัฐอเมริกา กองทัพเรือสหรัฐ ฯมีชัยชนะสเปนที่อ่าวมนิลาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๑อำนาจการปกครองของสเปนเหนือดินแดนฟิลิปปินส์มาเป็นเวลา ๓๗๗ ปี ก็เปลี่ยนมือไปได้มีการประกาศตั้งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๒





ปัญหาคอมมิวนิสต์ในประเทศ

        ในปี พ.ศ.๒๔๙๑ ประธานาธิบดีโรซาสได้ออกกฎหมายนิรโทษผู้สมรู้ร่วมคิดกับญี่ปุ่นปัญหาด้านนี้ก็หมดไป ยังมีแต่การก่อความไม่สงบของพวกชาวนา และเกษตรกรพวกนี้ได้ร่วมกันเข้าไปอยู่ในขบวนการคอมมิวนิสต์ หรือพวกฮุกบาลาฮับ (Hukbalahups) หรือกองทัพปลดปล่อยประชาชน ที่ต่อต้านญี่ปุ่น ถือว่าพวกนี้เป็นพวกนอกกฎหมาย ได้มีการระดมกำลังเข้าปราบปราม เริ่มใช้โครงการปฏิรูปที่ดิน และการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ ตั้งธนาคารกลางขึ้นรวมทั้งบริษัท ให้กู้เงินเพื่อฟื้นฟูประชาชน

มีการออกกฎหมายให้พรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรคการเมืองนอกกฎหมายเพื่อป้องกันการแทรกซึมของพวกคอมมิวนิสต์


นโยบายต่างประเทศ

    ก่อนปี พ.ศ.๒๕๑๑ สหรัฐอเมริกามีบทบาททั้งการทหาร และเศรษฐกิจในฟิลิปปินส์มากที่สุด

ส่วนญี่ปุ่นมีบทบาทเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น และในระยะเวลาดังกล่าวฟิลิปปินส์มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ จึงไม่ได้มีการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์แต่อย่างใด

หลังปี พ.ศ.๒๕๑๑ ฟิลิปปินส์เริ่มผ่อนคลายความผูกพันที่มีอยู่กับสหรัฐ ฯ ทั้งทางทหาร และทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน ได้หาทางผูกมิตร กับกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในอินโดจีน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ฟิลิปปินส์ได้แสดงท่าทีว่าต้องการพึ่งตนเองมากขึ้น 
หลังจากที่ฟิลิปปินส์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนและสหภาพโซเวียตรัสเซียแล้ว ฟิลิปปินส์ได้พยายามดำเนินนโยบายต่างประเทศ อย่างอิสระมากขึ้นได้เริ่มนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด รวมทั้งได้พยายามส่งเสริม และเข้าร่วมในกิจการต่าง ๆของกลุ่มประเทศโลกที่สาม

ได้มีการปรับปรุงนโยบายต่างประเทศที่จะส่งเสริมความมั่นคงของอาเซียนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประเทศโลกที่สาม สนับสนุนอาหรับในการแสวงหาสันติภาพถาวร ในตะวันออกกลาง เป็นต้น 






ขอขอบคุณ th.wikipedia.org
อาหารประจำชาติ



อโดโบ้ (Adobo)
เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ที่ผ่านการหมัก และปรุงรส โดยจะใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวานพริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ในอดีตอาหารจานนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางเนื่องจากส่วนผสมของอโดโบ้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเหมาะสำหรับพกไว้เป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทางซึ่งปัจจุบันอโดโบ้ได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่นำมารับประทานกันได้ทุกที่ทุกเวลา

ส่วนผสม
-สะโพกไก่                           -น้ำเปล่า                                -น้ำมันรำข้าว                       -ซีอิ้วขาว
-น้ำส้มสายชู                         -หอมหัวใหญ่สับ -กระเทียมบุบ      -ใบกระวาน
-เม็ดพริกไทยดำ                     -ขิง                                       -น้ำตาลทราย

วิธีทำ
๑. ใส่น้ำมันรำข้าวลงในกระทะพอน้ำมันร้อนนำไก่ลงใส่พอด้สนนอกสุกเล็กน้อย
๒. เติมซีอิ้วขาว น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า หอมใหญ่สับ กระเทียมใบกระวาน พริกไทย และขิงลงไป เคี่ยวประมาณ ๓๐ นาที จนไก่นุ่มและน้ำลดลง
๓. ปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อย รับประมานกับข้าวสวยร้อน




ขอขอบคุณ  https://sites.google.com/site/aseanoffood/home/prathes-filippins
อาหารขึ้นชื่อของประเทศฟิลิปปินส์

1. ปลาบางงุส (Bangus) หรืออีกชื่อว่า Milk Fish และชื่อไทยคือ ปลานวลจันทร์ทะเล

Bangus
เป็นปลาที่มีก้างค่อนข้างเยอะ ถือเป็นปลาที่คนฟิลิปปินส์นิยมเลี้ยงเป็นอย่างมาก ในทุกๆปี จะมีเทศกาลปลาบางงุส โดยจะมีการย่างปลาบางงุสต่อแถวเรียงกันในทางยาว ทั้งยังเคยได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊คด้วยว่า เป็นการย่างปลาบางงุสที่แถวยาวที่สุดในโลก


2. อะโดโบ (Adobo)

Chicken Adobo
อาหารยอดนิยมของชาวฟิลิปปินส์ โดยจะหมักเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น หมู ไก่ เนื้อ รวมไปถึงอาหารทะเล ปลาทะเล กับน้ำส้มสายชู และเครื่องเทศต่างๆ เช่น กระเทียม ใบกระวาน หัวหอม พริกไทยดำ และนำไปทอดหรืออบในกระทะ จนน้ำหมักซึมเข้าเนื้อ เป็นสีน้ำตาลคล้ายคาราเมล
โดยอะโดโบนั้น มีอีกชื่อนึงก็คือ สตูว์ฟิลิปปินส์ เหมาะแก่การเดินทาง เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น ทั้งนี้ก็เพราะน้ำส้มสายชูที่ใช้หมักนั้น มีส่วนในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย


3. ฮาโลฮาโล (Halo Halo)

Halo Halo
ของหวานยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ประกอบไปด้วย น้ำแข็งใสละเอียด ตามด้วยผลไม้เชื่อม ถั่วแดงเชื่อม ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าว ไอศครีม ราดหน้าด้วยนมสด หรือนมข้นหวาน หรือน้ำเชื่อม ซึ่งฮาโลฮาโลนี้ เป็นของหวานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง หากินได้ง่ายมากในกรุงมะนิลา




ขอขอบคุณ  http://www.xn--q3cepthq6db1c9e0d.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8-%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C/
สถานที่สำคัญของประเทศฟิลิปปินส์




อุทยานปะการังทางทะเลทุบบาตาฮะ (Tubbataha Reefs Natural Park)

          อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 130,028 เฮกตาร์ มีแนวปะการังเหนือและใต้ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังและสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์แล้วยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกและเต่าทะเลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผาหินปะการังใต้น้ำเก่าแก่ที่มีความสูงถึง 100 เมตร องค์การยูเนสโกยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อ พ.ศ.2536





 โบสถ์บาโรกแห่งฟิลิปปินส์ (Baroque Churches of the Philippines)
        โบสถ์แห่งนี้มีทั้งหมด 4 หลัง ตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา ซานตามาเรียปาโออาย และมิอากาโอ หลังแรกสร้างขึ้นโดยชาวสเปนในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีศิลปะแบบบาโรกของยุโรปที่สร้างโดยช่างฝีมือชาวจีนและฟิลิปปินส์ องค์การยูเนสโกยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อ พ.ศ.2536





นาข้าวขั้นบันไดบานัว (Banaue Rice Terraces)
ชาวพื้นเมืองเผ่าอิฟูเกา (Ifugao) เป็นผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาชิ้นนี้ไว้ที่เกาะลูซอน (Luzon) ตอนเหนือของฟิลิปปินส์ มีอายุมากกว่า 2,000 ปี เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูก นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาหน้าดิน ช่วยกักเก็บน้ำฝน และป้องกันน้ำท่วมได้อีกด้วย องค์การยูเนสโกยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อ พ.ศ.2538




เขตนครประวัติศาสตร์วีกัน (Historic Town of Vigan)
สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างการวางผังเมืองแบบสเปนที่ดีที่สุดในเอเชีย สิ่งก่อสร้างต่างๆ ในเมืองนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเนื่องจากได้รับอิทธิพลที่หลากหลาย ทั้งจากจีนและยุโรป และเพื่อเป็นการรักษาสภาพสถานที่แห่งนี้เอาไว้ จึงอนุญาตให้รถม้าเท่านั้น องค์การยูเนสโกยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อ พ.ศ.2542





ป่าอุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โต ปรินเซซา (Puerto – Princesa Subterranean River National Park)
อุทยานแห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่งดงามของภูเขาหินปูนและแม่น้ำใต้ดินที่ไหลผ่านถ้ำลงสู่ทะเล ที่มีความยาวถึง 8.2 กิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นแม่น้ำใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังเป็นตัวแทนของกลุ่มระบบนิเวศต่อเนื่องแบบเทือกเขาสู่ท้องทะเล (Full Mountain to Sea Ecosystem) อีกด้วย องค์การยูเนสโกยกย่องให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ.2542




ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago)

     เคยเป็นด่านแรกที่ใช้ในการป้องกันการโจมตีจากข้าศึก โดยเฉพาะข้าศึกที่เข้ามาทางปากแม่น้ำปาซิกและอ่าวมะนิลา แต่ก็ถูกกองทัพสหรัฐฯ ทำลาย ซึ่งต่อมาก็มีการบูรณะซ่อมแซมให้เป็น ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ (Shrine of Freedom)




ขอขอบคุณ  http://www.9ddn.com/content.php?pid=753


สถานที่ท่องเที่ยว สวนไรซาล    สวนไรซาล ( Rizal Park) หรือมีอีกชื่อว่า ลูเนตา ( Luneta) เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ของเมือง และเป็นที่ตั...